7 คนดังเล่าเรื่องผี ประสบการณ์สุดหลอนที่ชวนขนลุก อ่านแล้วนอนไม่หลับ

Alternative Textaccount_circle
event

โอม ปัณฑพล ประสารราชกิจ (โอม ค็อกเทล)

“ครั้งแรกที่เจอประสบการณ์หลอนคือตอนไปงานบวชคนขับรถที่จังหวัดสุพรรณบุรี พอกลับบ้านมาตอนกลางคืนเหมือนมีคนมานั่งคร่อมแล้วทุบลงบนตัวผม ต่อมาวันที่สองโดนปลุกตอนตี 3 แต่ถูกลวงตาให้มองเห็นนาฬิกาเป็นตี 5 พอเดินลงชั้นล่างยังมืดสนิท คือตี 5 ไม่น่าจะมืดขนาดนั้น จนกลับขึ้นไปชั้นบนก็เห็นนาฬิกาเป็นตี 3 เช้ามาเลยไปทําบุญให้ ตอนนั้นยังเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง กลับจากทําบุญตอน 8 โมงเช้าก็มานอนต่อ พอหลับรู้สึกมีคนยืนอยู่หัวเตียงแล้วพูดว่า ‘กูไม่เอาส่วนบุญมึง!’ น่ากลัวมาก

“จากนั้นผมได้รู้จักกับคุณลุงท่านหนึ่ง เขาให้ส่งรูปให้ดู แล้วลุงก็บอกว่ามีผู้ชายกับผู้หญิงตามผมมาจากสุพรรณ ผู้หญิงมาห้าม แต่ผู้ชายยังไม่อยากตายเลยจะเอาชีวิตผมด้วยการสิงร่าง เมื่อร่างเรามีพลังมากกว่า 1 ดวง ร่างกายจะรับไม่ได้ ธาตุและพลังในร่างจะหมด ถ้าเขาแฝงตัวและมีแรงก็สามารถถีบเราออกไปได้ วิญญาณเราจะเร่ร่อนจนกว่าจะหมดอายุขัย โชคดีที่คุณลุงช่วยให้วิญญาณนั้นกลับไปสุพรรณตามเดิม

“ช่วงนั้นผมกลัวมาก เจอติดกันหลายวันจนนอนไม่ได้ จนเกิดเป็นวิกฤติศรัทธา ทําให้ผมอยากบวช เพื่อหาคําตอบว่าชีวิตคนเราจบแค่การตายแค่นั้นหรือ ซึ่งการบวชทําให้ผมรู้ว่าชีวิตมีเป้าหมาย มีการวนเวียนอยู่จริง มีการเกิดใหม่ ไม่ได้มีแค่ชาตินี้เท่านั้น

“ตอนบวชผมก็เจอจนวิ่งหน้าตั้งจีวรปลิวเลย อย่างวันวิสาขบูชามีสวดมนต์กันถึงเช้า มีกัณฑ์เทศน์ด้วย ผมตั้งใจว่าจะฟังเทศน์จนถึงเช้า แต่พอตี 3 ก็ง่วงจนทนไม่ไหว ความที่ไม่อยากพลาดช่วงดีๆ เลยคิดว่าจะกลับกุฏิไปงีบสักชั่วโมงแล้วค่อยกลับไปตอน 7 โมงเช้า พอกลับไปนอนเท่านั้นแหละ มาสะกิดเลย พอไม่ตื่นก็เหมือนมีคนถีบจนกระเด็น มองไปเห็นเป็นรูปร่างกลุ่มควัน ตอนนั้นเรียกว่าเห็นในกึ่งอนุสติ แม้จะสะลึมสะลือแต่รู้สึกเจ็บจริงครับ ตอนเข้าป่าโอมก็โดน ‘ลองพระใหม่’ พระใหม่โดนกันหลายคนเลย เราหลับอยู่เขาก็มาสัมผัสตามตัว เหมือนลวนลาม แต่ตื่นมาไม่เห็นใคร เราเลยไม่นอน ลุกขึ้นมานั่งสมาธิถึงเช้า

“หลังบวชก็เจอเรื่อยๆ ที่น่ากลัวคือเจอพร้อมเพ็ญ (ภรรยา) วันนั้นผมขับรถจากบ้านตัวเองแถวเมืองทองจะไปกินข้าวกับครอบครัวเพ็ญที่บ้านเขาย่านรามอินทรา ขับไปถึงรามอินทรากิโลเมตรที่ 3 หรือ 4 นี่แหละ รถเราชน เสียงดังสนั่น เพ็ญกรี๊ดลั่นรถ ผมก็เหยียบเบรกเต็มที่ มองเห็นมอเตอร์ไซค์สีครีมขับข้างๆ คนขับใส่เสื้อหนัง ใส่หมวกกันน็อกสีครีม เราทั้งคู่เห็นตรงกันว่าคนขี่เสียหลักแล้วสไลด์เข้าไปใต้รถผม มอเตอร์ไซค์ไถลกึกๆ จนเกิดประกายไฟ ในใจคิดว่าเขาคงเป็นลม และเราคงทับเขาไปแล้ว ผมรีบจอดรถห่างออกจากจุดนั้นไปประมาณ 50 เมตร แล้วตั้งสติ ปลอบแฟนอยู่ครึ่งนาที ก็ลงรถพร้อมก้มดูใต้ท้องรถด้วยว่ามีอะไรติดอยู่มั้ย จากนั้นวิ่งกลับไปที่เกิดเหตุ น่าแปลกมากที่ไม่มีใครสนใจอะไรเลย พ่อค้าแม่ค้าขายของปกติ คนผ่านไปมาไม่มีใครตื่นตระหนก ยิ่งไปกว่านั้นคือ ไม่มีมอเตอร์ไซค์ ไม่มีคนเจ็บ มีแค่เศษกระจกแตกเป็นเม็ดเล็กๆ โมเมนต์นั้นคิดใจว่าเราอาจเห็นเกินเหตุ มอเตอร์ไซค์อาจรู้ตัวว่าผิดเลยขับหนีไปเอง

“พอไม่เห็นอะไรเราก็ไปกินข้าวกันตามเดิม เสร็จเรียบร้อยก็กลับบ้านตัวเอง รุ่งเช้ายามถามว่ารถไปชนอะไรมา ยุบนิดเดียวแต่มีรอยประหลาดเป็นริ้ว 5 เส้น ถ้าเอามือไปวางทาบจะพอดีร่องนิ้วมือ 5 นิ้ว เห็นแล้วผมก็โทร.ไปเล่าให้คุณลุงคนเดิมฟัง ท่านให้ถ่ายรูปส่งให้ดู แล้วบอกว่าเห็นพลังงานบางอย่างอยู่ในรูป คุณลุงบอกว่าเขาเพิ่งตายวันนั้นตอนเช้า มอเตอร์ไซค์ถูกสิบล้อชน เขาพยายามใช้กําลังทั้งหมดที่มีปรากฏตัวให้คนที่น่าจะช่วยได้เห็น และไม่รู้จะทําอย่างไรจึงโดดขวางรถ วินาทีแรกคิดว่าเขาจะพาโอมไปอยู่ด้วย แต่เปล่า เขาแค่มาขอยาแก้ปวด เน้นให้ทําบุญเป็นยาแก้ปวดให้เขาที จากนั้นผมจึงไปเช็กที่สถานีตํารวจ ปรากฏว่ามีอุบัติเหตุเกิดวันนั้นตอน 10 โมงเช้าจริงๆ มีคนตายตามรูปพรรณสัณฐานอย่างที่เราเห็น มอเตอร์ไซค์สีครีม หมวกกันน็อกสีครีม คนตายใส่แจ็กเก็ตหนัง เหตุเกิดสดๆ ร้อนๆ หัวค่ำวันนั้นจึงยังมีเศษกระจกอยู่ ประเด็นคือผมต้องขับผ่านถนนเส้นนั้นอีก ขอร้องว่าอย่าทําแบบนี้อีกเลย เราเกือบตายเลยนะ”

 —————

สายป่าน-อภิญญา สกุลเจริญสุข

“ตอนถ่ายหนังเรื่องฮาชิมะ โปรเจกต์ ไปถ่ายทําในสถานที่จริง เป็นเกาะร้างกลางทะเลญี่ปุ่น ระหว่างถ่ายทําป่านมองกล้องตรงหน้า แต่รู้สึกเหมือนมีใครหายใจอยู่ข้างหู พอหันไปมองก็มีผู้หญิงยื่นหน้ามาเทียบข้างๆ แล้วค่อยๆ ถอยหายไป อเล็กซ์ เรนเดลล์ที่เล่นด้วยกันก็เจอ แถมหนักกว่าด้วย ถึงขนาดตามกลับไปที่ห้องพัก พอกึ่งหลับกึ่งตื่นก็เห็นใครบางคนนั่งวีลแชร์อยู่ในห้อง จากนั้นก็เข็นวีลแชร์ชนกําแพงตึงๆๆ จนเลือดค่อยๆไหลออกมา น่ากลัวมาก

“ปกติป่านเป็นคนไม่กลัวผีอยู่แล้ว แต่เชื่อเรื่องแบบนี้มาก เพราะเห็นมาตลอดตั้งแต่เด็ก ซึ่งตอนนั้นเรายังไม่รู้เลยว่าผีคืออะไร จําความได้ว่าเริ่มเจอตอนประมาณ 4 ขวบที่บ้านหลังเก่า น่าจะเป็นผีเจ้าที่ เหมือนเราลืมตาตื่นมากลางคืนแล้วเห็นเขายืนมองอยู่ปลายเท้า ตัวสูงจนต้องเอียงคอมองเรา

“เหตุการณ์ที่กลัวสุดคือเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ช่วงใกล้ๆ วันเกิด ปีนั้นป่านทํางานทั้งปี ไม่ค่อยมีเวลาทําบุญ แล้วต้องไปถ่ายหนังที่โรงพยาบาลเก่าแห่งหนึ่ง ความที่ไม่ค่อยได้นอนเลยเพลียและงีบหลับเอาแรง แต่หูได้ยินเสียงทีมงานคุยกัน เลยตื่นและลุกขึ้นมา ปรากฏว่าพอหันกลับไปมองที่เดิมยังเห็นตัวเองนอนเหมือนเดิม ตกใจมาก รู้สึกว่ายังไม่พร้อมตาย หนูรับไม่ได้ เพราะยังไม่ได้ลาพ่อแม่ เลยตัดสินใจทับร่างเดิมก็ไม่เข้า ยืนขึ้นมาก็ยังเห็นตัวเองนอนอยู่ เหมือนในหนังมาก เริ่มใจหายและกลัว ไม่ได้กลัวผีนะ แต่กลัวตาย คิดว่าต้องมีอะไรเล่นงานเราแน่ๆ เลยพูดในใจว่า ลูกมาทํางานหาเงินด้วยความบริสุทธิ์เพื่อเลี้ยงดูพ่อแม่ หนูคงรับไม่ได้ถ้าต้องตายโดยไม่ได้ลาใครเลย จะอะไรก็แล้วแต่ ขอให้ผ่านวันเกิดไปก่อนแล้วหนูจะไปทําบุญ แล้วจึงกลับไปทับในร่างตัวเองได้

“จากนั้นป่านรีบโทร.หาผู้จัดการให้มาหาด่วน พอมาถึงเขาก็ให้พระกลัดเสื้อไว้ และระหว่างที่ผู้จัดการโทรศัพท์คุยงานอยู่ก็มีเสียงผู้ชายโวยวายแทรกสายเข้ามาตลอดจนจับประเด็นไม่ได้เลย เขาถามหนูว่าไปนอนตรงไหนมา แล้วก็บอกว่าปลายเท้าเราหันไปทางเจ้าที่นะ พี่ว่าเขาไม่พอใจ ป่านเลยขอโทษเพราะไม่ได้ตั้งใจลบหลู่จริงๆ

“เคยเจอมาขอความช่วยเหลือก็มีนะ โทรศัพท์คลื่นแทรกเข้ามาเป็นเบอร์แปลกๆ สืบรู้ว่าเป็นเบอร์ตู้สาธารณะ ตามไปตู้นั้นก็รู้ว่าอาทิตย์ที่แล้วเกิดอุบัติเหตุ ดูข่าวย้อนหลังทราบว่ามีนักเรียนชายโรงเรียนนี้ ชื่อนี้ โดนสิบล้อชนตอนดึก คือป่านขับรถผ่านตรงนั้นแล้วคลื่นจูนตรงกัน เลยติดต่อกันได้ รุ่งขึ้นป่านก็ทําบุญและอธิษฐานให้น้องคนนั้นตรงๆ เลยค่ะ

“ป่านมักเห็นอะไรแบบนี้บ่อยๆ เวลาทํางาน เหมือนเรามีครูหรือมีสัมผัสพิเศษกับเจ้าของสถานที่นั้นอยู่ อย่างมีอยู่ครั้งหนึ่ง พี่ในวงการที่มีเซ้นส์ทางนี้เห็นว่ามีผู้หญิงใส่ชฎาอยู่ข้างหลังเรา เลยแนะนําให้ป่านหาชฎาสวยๆ สักอันมาไว้ แล้วบอกให้เขาอยู่บ้าน ไม่ต้องตามมา ถ้าต้องการความช่วยเหลือหรือเดือดร้อนจะบอกเอง ป่านไม่รู้ว่าเธอคือใคร เรื่องแบบนี้ไม่เชื่อแต่อย่าลบหลู่ เราอาจจะมีครูของเรา สตูดิโอที่เราไปทำงานอาจจะมีครูบาอาจารย์หรือเจ้าที่ เทพชั้นไหน ใครศักดิ์สูงกว่ากัน ไม่ถูกกันหรือเปล่าใครจะรู้ ป่านเคยถึงขั้นอธิษฐานขออนุญาตเจ้าที่และบอกคนที่อยู่กับเราว่าช่วยเจรจากับเจ้าที่ก่อน ขอป่านทํางานที่นี่นะ ขอให้ราบรื่น ป่านเหนื่อย หายใจไม่ออก ถ้ายังเป็นแบบนี้ป่านอาจจะล้มตึงหน้าเซต บางทีต่อบทกันอยู่ ตามองกล้องแต่เห็นใครไม่รู้ จิตเราต้องบอกให้เขาไปก่อน แล้วเราจะทําบุญไปให้ อย่ากวนกันตอนทํางานเลย”

—————

ปั้นจั่น ปรมะ อิ่มอโนทัย

“มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ทําให้เชื่อว่าเรื่องแบบนี้มีจริงๆ คือตอนประมาณ ป.6 คุณแม่ผมท้องได้ 3 เดือน อัลตราซาวนด์ทราบผลว่าเป็นผู้ชาย แต่แท้ง คุณแม่เสียใจมาก ครอบครัวเลยไปทําบุญให้น้อง กระทั่งมีโอกาสไปเที่ยวเชียงใหม่ แล้วพากันไปดูหมอคนทรง ตอนทําพิธีอยู่จู่ๆ คุณแม่ก็ร้องไห้ออกมา คนทําพิธีบอกให้ลองเปิดหลังดู พอผมเปิดเสื้อด้านหลังคุณแม่ขึ้นก็เห็นรอยจ้ำแดงๆ เหมือนรอยนิ้วมือเด็กเต็มหลังเลย ตอนนั้นตกใจมาก คนทรงบอกว่าน้องยังไม่อยากไป ต้องทําพิธีบอกว่าพวกเรารักเขา แต่ด้วยเหตุสุดวิสัยทําให้อยู่ด้วยกันไม่ได้ ขอให้ไปสู่สุคติ แล้วจะทําบุญไปให้

ประสบการณ์หลอน เรื่องผี

“อีกเรื่องเกิดขึ้นช่วงเรียนมหาวิทยาลัยปี1 ปี2 ผมพักอยู่หอแถวมหาวิทยาลัย ซึ่งข้างหน้าหอพักมีศาลพระภูมิตั้งอยู่ เวลาเดินเข้าออกผมจะยกมือไหว้ตลอด จนวันหนึ่งนั่งเล่าเรื่องผีกับรุ่นพี่ เขาถามผมว่าเคยเห็นศาลพระภูมิหน้าหอพักหรือเปล่า ผมตอบไปว่าไหว้ประจําเลย พอตอบไปแบบนี้ฮือฮากันทั้งวง ก่อนที่รุ่นพี่จะบอกว่า จะเห็นได้ไงในเมื่อมันไม่มี!! ได้ยินแบบนั้นแล้วผมรีบโทร.หาเพื่อนที่หอ บอกให้ลงไปดูข้างล่างให้หน่อยว่ามีศาลมั้ย คําตอบคือไม่มีจริงๆ พอกลับถึงหอพัก ภาพตรงนั้นที่เคยมีศาลพระภูมิกลับมีแค่ฐาน!! มารู้ที่หลังว่าที่ตรงนั้นเป็นของคนอิสลาม พอสัญญาเช่าพื้นที่หมดเขาก็ทุบศาลพระภูมิออกแล้วสร้างเป็นหอพักแทน”

เรื่อง: AuAi ภาพจาก : Sudsapda / ภาพประกอบ:  www.timeout.com  www.aseantourism.travel

เรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง :

หนังผีไทยสุดหลอนในความทรงจำ

5 ซีรีส์ผีฉบับเกาหลี ใครชอบแนวนี้ไม่ควรพลาด!!

7 เรื่องแสนเกลียดยามดูหนังผี …ใครเคยเจอมั่ง!

 

สุดสัปดาห์

keyboard_arrow_up