ปราณี ถีติปริวัตร นักไตรกีฬาอาวุโส ขวัญใจทุกสนาม

Alternative Textaccount_circle
event

นักไตรกีฬาอาวุโส ขวัญใจทุกสนาม หนึ่งในจุดรวมสายตาของหลายๆ รายการแข่งขันไตรกีฬาคือผู้หญิงร่างเล็กวัย 67 ปี ที่ใส่โจงกระเบนวิ่ง ว่าย และปั่นอย่างแข็งขัน จนนักกีฬาจอมพลังคนอื่นๆ ถึงกับยกนิ้วให้พร้อมกับเสียงชื่นชมลั่นสนามว่า “ป้าปิ๋วแจ๋วอะ”

“เมื่อก่อนป้าทำงานด้านสาธารณสุขและทำนมถั่วเหลืองขายด้วย ทั้งยังเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว ทุกวันจึงต้องใช้พลังชีวิตหนักมาก ทำให้หงุดหงิดง่ายเหมือนหมาบ้า แล้วยังถือว่าตัวเองเก่ง มีอีโก้สูง เลยเป็นคนที่เครียดตลอดเวลา ยิ้มไม่เป็น อยู่กับลูกก็ดุและเจ้าระเบียบ ไม่เคยยิ้มกับลูกเลยมีแต่ใส่อารมณ์ จนต้องไปพบจิตแพทย์และได้ยากล่อมประสาทมากินพอกินแล้วก็ง่วงนอน แต่ตื่นมาปัญหาก็ยังอยู่เหมือนเดิม แถมประสาทหลอนอีกต่างหาก เลยเปลี่ยนไปหาหมออีกคนและขอว่าไม่กินยา เพราะกินแล้วทำงานไม่ได้ หมอจึงแนะนำให้พูดเยอะๆ และออกกำลังกายแทน”

“แรกๆ เริ่มจากปั่นจักรยานก่อน เพราะชอบและรู้สึกว่าเป็นกีฬาที่ไม่หนักมาก แต่พอชวนเพื่อนมาปั่นด้วยกันเขาบอกว่าปกติวิ่งตอนเย็นอยู่แล้ว ถ้าจะให้ไปปั่นด้วย เราต้องไปวิ่งเป็นเพื่อนเขานะ ทั้งๆ ที่ไม่เคยวิ่งมาก่อนแต่เราก็ตกลง จนทำไปได้สักพักก็รู้สึกไม่ไหว เพราะไหนจะต้องตากแดดวิ่งแล้วต้องมาปั่นจักรยานอีก เป็นการออกกำลังกายที่เหนื่อยทั้งคู่ จนได้รู้จักการแข่งขันที่เรียกว่า ‘ไตรกีฬา’ ซึ่งมีว่ายน้ำเข้ามาด้วย เราศึกษาแล้วเห็นว่าการว่ายน้ำจะช่วยเตรียมกล้ามเนื้อให้พร้อมและทำให้สดชื่นก่อนไปสู้แดดในการวิ่งและปั่น เลยมองว่าน่าจะสนุกกว่าและเริ่มสนใจ”

“รายการแรกที่ลงแข่งคือการแข่งขันไตรกีฬาที่อ่าวมะนาว ประจวบคีรีขันธ์ ตอนนั้นอายุ 40 กว่า ใครๆ ก็คิดว่าคงพาลูกไปแข่ง พอเห็นเราลงเองทุกคนก็ตกใจ เพราะมีผู้หญิงลงแข่งน้อยมาก ไม่ถึงสิบคน แล้วนี่ดันเป็นผู้หญิงสูงวัยด้วย แต่เราก็เข้าเส้นชัยได้นะ หลังจากนั้นพอรู้จักกลุ่มเพื่อนที่แข่งด้วยกันซึ่งส่วนใหญ่เป็นรุ่นน้อง เขาก็ชวนไปแข่งรายการนั้นรายการนี้ต่อมาเรื่อยๆ จนทุกวันนี้น้องๆ กลุ่มเดิมหายหน้าจากวงการไตรกีฬาไปหมดแล้ว เหลือแต่ป้านี่แหละที่ใจยังรักอยู่”

“ป้าชอบการแข่งไตรกีฬาตรงที่ได้ทำหลายอย่างและท้าทายดี ก่อนหน้านี้มีคนสบประมาทไว้เยอะว่าตัวเล็กนิดเดียวต้องแข่งตั้งสามอย่าง ทำไม่ได้หรอก เราก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าทำได้ แข่งได้ แต่ด้วยความที่ไม่ค่อยซ้อมเวลาก็อาจจะไม่ดี แค่จบได้ในช่วงที่เขากำหนดก็โอเค เพราะเราไม่หวังว่าจะต้องได้รางวัลอยู่แล้ว แต่อยากจะเอาชนะตัวเอง และเป็นแรงบันดาลใจให้คนอื่นแค่นั้น”

“บางครั้งระหว่างแข่งก็มีท้อนะ คิดว่าเราช้าจะเป็นภาระคนอื่นหรือเปล่า อย่างมีอยู่ครั้งหนึ่งไปแข่งที่เขาเขียว ต้องปั่นจักรยานขึ้นเขา แล้วมีเด็กรุ่นหลานคนหนึ่งไปไม่ไหว เราเลยคอยดูแลเขา สตาฟฟ์ที่จัดงานก็บอกว่า งั้นผมฝากด้วยนะครับป้า แต่พอพามาถึงเส้นชัยปรากฏว่าทีมงานขนของขนโต๊ะกลับกันหมดแล้ว รู้สึกแย่มาก เพราะผู้จัดงานควรจะดูแลผู้ร่วมแข่งขันทุกคนตั้งแต่คนแรกยันคนสุดท้าย แต่นี่กลับทิ้งเราไปเลยทั้งที่ฝากดูแลผู้แข่งขันรายอื่นอยู่ด้วย กลายเป็นว่าเราต้องมาห่วงอีกว่าน้องคนนั้นจะกลับยังไง”

“อีกครั้งหนึ่งคือเจ้าหน้าที่เห็นเราช้าเลยบอกให้หยุด ตัดตัวออกแล้วพาไปรอบนเขา แต่รอจนแล้วจนเล่าก็ไม่มีใครมารับ จากนั้นมาป้าไม่เชื่อใครอีกเลย จะตัดเราออกก็ตัดไป ถึงไม่ให้เหรียญ ไม่ให้รางวัลฉันก็จะไปของฉันเอง จนหลังๆ มาพอรู้ว่าว่าป้าจะลงแข่งสนามไหน เพื่อนๆ นักไตรกีฬาก็สบายใจ ไม่ต้องห่วงว่าจะถูกทิ้งเป็นคนสุดท้าย เพราะยังไงข้างหลังก็ยังมีป้าปิ๋วอยู่” (ยิ้ม)

“หลายคนถามว่าอายุปูนนี้แล้วเมื่อไรจะหยุด บอกเลยว่าป้าไม่เคยคิดที่จะเลิก ถึงแม้ร่างกายจะลงแข่งไม่ไหวแต่ก็ยังจะไปเชียร์อยู่ข้างสนาม เพราะไตรกีฬาเป็นเหมือนส่วนหนึ่งที่มีค่าของชีวิตป้าไปแล้ว อย่างทุกวันนี้บางทีเราไปแข่งก็มีคนตะโกนมาว่า ‘แก่ไปหนูจะเป็นอย่างป้า’ ได้ยินแล้วกำลังใจเพิ่มขึ้นเยอะเลยนะ แล้วไม่ใช่แค่นักกีฬา แม่ค้าเอย วินมอเตอร์ไซค์เอย ทุกคนที่อยู่รอบๆ สนามแข่งพอได้เจอกันในอีกปีที่การแข่งขันวนกลับมาถึงเขาจะดีใจ บางคนก็มาขอกอด บอกป้ามาอีกนะคะ เป็นสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่ทำให้เรามีความสุขก็เลยหยุดไม่ได้ ถึงปีนี้จะอายุ 67 แล้ว แต่ป้าก็ยังคงไปแข่งตามต่างจังหวัดอยู่ตลอด”

“นอกจากจะเป็นนักไตรกีฬาแล้ว ทุกวันนี้ป้ายังทำงานจิตอาสาให้กับชมรมจักรยานเพื่อสุขภาพด้วย เพราะเคยมีคนพูดประะโยคหนึ่งกับเราว่า ‘การจะเป็นแรงบันดาลใจให้ใคร ไม่ต้องทำอะไรเยอะเลย แค่ทำตัวเองให้มีรูปร่างสมส่วน แล้วปั่นจักรยานผ่านหน้าบ้านผมทุกวัน เดี๋ยวผมก็ออกมาปั่นตามคุณเอง’ ฉะนั้นถึงจะไม่ค่อยได้ซ้อมแต่ป้าปิ๋วก็ออกไปปั่นโชว์ทุกวัน เวลาเจอเด็กๆ ก็เร่งแซงเสียหน่อยให้เขาทึ่งจนร้อง ‘โอ้! ยาย’ แค่นั้นแหละ พอพ้นไปแล้วถึงจะเหนื่อยจนแทบจะเป็นลมก็ค่อยว่ากัน” (หัวเราะ)

นักไตรกีฬาอาวุโส
เป็นป้ายังไงไม่ให้ป้า : ต้องทำตัวเราให้ดี หากไม่ชอบให้ใครทำอะไรให้ก็อย่าไปทำสิ่งนั้นกับคนอื่น รักษาร่างกายให้แข็งแรง ไม่เป็นภาระใคร และที่สำคัญคือ อย่าหน้างอ

 

เรื่องที่น่าสนใจอื่นๆ

หนุ่มๆ ใจหาย ดาราสาวเปิดตัวว่ามี คนรู้ใจเป็นผู้หญิง

ความรักไร้พรมแดน รวมดาราไทยได้ สามีต่างชาติ

เจริญรอยตามพ่อแม่ ลูกดารารุ่นจิ๋ว ชิมลางในวงการบันเทิง

สุดสัปดาห์

keyboard_arrow_up