เรื่องเล่าหวานฉ่ำ นุ๊ก สุทธิดา & ฮากีม ฉบับข้าวใหม่ปลามัน

Alternative Textaccount_circle
event

         เพราะกีฬาเป็นสื่อ นุ๊ก สุทธิดา จึงได้พบรักกับหวานใจชาวมาเลย์ มูฮาหมัด ฮากีม บินอาซาฮา ซึ่งระยะทางระหว่างประเทศก็ไม่ใช่ปัญหา หลังรักกันทางไกลได้พักใหญ่ทั้งคู่ก็ตัดสินใจเข้าพิธีแต่งงานพร้อมเงื่อนไขพิสูจน์รักแท้ Love Me, Love My Son รักฉันต้องรักลูกชายฉันด้วย ตามมาฟัง เรื่องเล่าหวานฉ่ำ ของทั้งคู่ว่าจะน่ารักน่าอิจฉาเบอร์ไหนกันนะ

Nook & Hakim

นุ๊ก : เรารู้จักกันในการแข่งขันกีฬาสตรีท เวิร์คเอ๊าต์เอเชีย ที่สิงคโปร์ ตอนนั้นฮากีมไปลงแข่งในฐานะนักกีฬา ส่วนนุ๊กไปร่วมเชียร์นักกีฬาไทย จำได้ว่าพอไปถึงเหนื่อยมาก อยากนอนแล้วในนั้นก็มีแต่พื้นโล่งๆ ไม่มีที่ให้หลบมุมนอนได้เลย แต่ด้วยความเหนื่อยเราก็คิดว่า ช่างเถอะ คงไม่มีคนไทยกลุ่มอื่นในนั้นหรอก แล้วก็ปูกระเป๋านอนตรงนั้นแหละ ไม่ได้มีความดูดีอะไรทั้งสิ้น

ฮากีม : ตอนนั้นผมไม่รู้อะไรเกี่ยวกับนุ๊กเลย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอเป็นนักแสดง แต่ครั้งแรกที่ได้เห็นก็เหมือนมีแรงดึงดูด จนทำให้ผมสนใจและคอยมองเธอตลอด ไม่ว่าจะทำอะไร เดินไปไหน สายตาผมอยู่ที่เธอเสมอ

นุ๊ก: เราก็ไม่รู้ว่าเขาแอบมองอยู่เพราะในช่วงระหว่างงาน 2-3 วันก็มีคนมาขอถ่ายรูปค่อนข้างเยอะ แต่เขาเป็นคนเดียวที่เราจำได้ เพราะเข้ามาขอถ่ายรูปด้วยทุกวัน แต่ไม่เคยคุยกันเลย

ฮากีม : คือเพื่อนๆ คนอื่นๆ พยายามเข้าไปคุยกับเขา เข้าไปทักทาย ยกเว้นผมที่เขินเกินไปจนไม่กล้าคุย จึงได้แต่ขอถ่ายรูปแล้วเดินหนีเลย (ยิ้ม)

นุ๊ก : กระทั่งเขาลงแข่งแล้วได้ที่ 1 เป็นแชมป์สตรีท เวิร์คเอ๊าต์เอเชีย ก่อนแยกย้ายกันกลับบ้านก็มาขอถ่ายรูปเป็นที่ระลึกอีกครั้ง แต่ครั้งสุดท้ายนี้เขากลับเอ่ยปากคุยกับเราพร้อมกับขอไอจีไป ซึ่งตอนนั้นมีหนุ่มๆ ขอเบอร์ และไลน์เราเยอะมาก ทั้งเกาหลี มาเลเซีย เราก็มัวมองแต่โอปป้า (หัวเราะ) จนกลับมาเมืองไทยเขาทักมาในไอจีว่าขอคุยวอทส์แอพได้ไหม เราก็โอเค เพราะนุ๊กชอบกีฬาชนิดนี้มากจึงคุยกับทุกคนที่เป็นนักกีฬา แต่เขาไม่เหมือนคนอื่นตรงที่พอรู้จักกันปุ๊บก็ขอให้เราส่งรูปและคลิปวิดีโออวยพรปีใหม่ของมุสลิมให้ และเป็นคนเดียวที่เอารูปเราแบบเดี่ยวๆ ไปลงไอจีในขณะที่คนอื่นลงรูปหมู่กัน เลยทำให้รู้สึกว่าเขาจริงใจ

ฮากีม : หลังจากนั้นเราก็คุยกันผ่านทางวอทส์แอพทุกวันจนกลายเป็นกิจวัตรของผมไปเลย

นุ๊ก : จำได้ว่าตอนที่เริ่มคุยกันคำถามแรกของนุ๊กที่ถามเขาคือ รู้ไหมว่าเราอายุเท่าไร

ฮากีม : ตอนแรกผมไม่รู้หรอกว่าเธออายุเท่าไร คิดว่าน่าจะเท่าๆ กัน แต่พอรู้แล้วผมก็ไม่มีปัญหานะ เพราะนับตั้งแต่รู้ตัวว่าชอบเขาผมก็เตรียมตัวไว้แล้วว่าจะต้องรับได้ในทุกอย่างที่เป็นเธอก็เลยคุยกันมาเรื่อยๆ ทุกวัน และทุกเรื่องไม่ว่าจะเป็นเรื่องส่วนตัว ครอบครัว จนเราเริ่มรู้สึกสบายใจและใกล้ชิดกันมากขึ้น

นุ๊ก : พอคุยกันมาได้สักพักนุ๊กเลยถามเขาว่า ตกลงจะไม่ขอเป็นแฟนเหรอ เขาตอบมาว่า ก็ต้องรู้อยู่แล้วไหม ว่านี่เราเป็นแฟนกันอยู่ (ยิ้ม) หลังจากนั้นก็นัดเจอกันบ้าง นานๆ ครั้งเขาก็จะมาเมืองไทย ซึ่งพอตกลงเป็นแฟนกันเขาก็เทคแคร์ดูแลเราดีทุกอย่าง เพราะที่บ้านเขาสอนให้เทคแคร์ผู้หญิง เวลาไปไหนมาไหนเราจึงแทบจะไม่ได้ถืออะไรเลย แม้แต่ถุงพลาสติกใบเล็กๆ เขาก็จะถือให้ เวลาที่เราแพ้ท้องแล้วอารมณ์เหมือนคนวัยทองตลอดเวลา เขาก็คงรับไม่ได้จึงโทร.ไปหาคุณแม่ พอแม่เขาสอนว่าต้องดูแลกันนะ แล้วไม่ใช่ดูแลแค่กายอย่างเดียว ต้องดูแลจิตใจด้วย เขาก็ใจเย็นลงและเข้าใจเรามากขึ้น มาคอยนวดให้ ทำนั่นนี่ให้ แต่ถามว่ามีอีกคนไหม เขาบอกว่า ก็ไม่ไหวนะ (หัวเราะ) นุ๊กเคยถาม เหมือนกันว่าอะไรที่ทำให้เขารักเรา คืออย่างเวลาเขาถามเรา เราจะบอกเป็นสเต็ปเลยว่า เพราะอย่างนั้นอย่างนี้ แต่พอเราถามเขา เขาบอกว่ามีคำตอบที่ง่ายที่สุดคำตอบเดียวคือ ความรักเป็นของขวัญจากพระเจ้า ดังนั้นจึงไม่มีเหตุผล

ฮากีม : ใช่ครับ สำหรับผมความรักเหมือนของขวัญที่เติมเต็มชีวิต จนทุกวันนี้เธอเป็นทุกอย่างในชีวิตผมไปแล้ว เป็นสิ่งสำคัญ เป็นสิ่งจำเป็น และแน่นอนว่าเป็นครอบครัวของผม เพราะเธอจึงทำให้ทั้งชีวิตและความรักของผมสมบูรณ์

นุ๊ก : ตอนนี้นุ๊กว่าชีวิตเราเป็นไปในแบบที่เราต้องการแล้ว อาจจะไม่เพอร์เฟ็กต์ แต่แค่ตอบโจทย์ในสิ่งที่เราต้องการมากที่สุดก็พอ อย่างตอนที่เราตกลงว่าจะใช้ชีวิตร่วมกัน ต่างคนก็ต่างมีเงื่อนไข ฮากีมบอกว่า ถ้าแต่งงานแล้วต้องรู้นะว่ายังไงเราก็ไม่ใช่ผู้หญิงหมายเลข 1 ของเขา เพราะหมายเลข 1 คือแม่ ซึ่งเราก็บอกว่ากับเขาเหมือนกันว่า เธอก็รู้ใช่ไหมว่า รักฉันต้องรักลูกๆ ของฉันด้วย เขาก็บอกว่ารู้ เข้าใจ ทุกวันนี้เขาก็เล่นกับลูกๆ เรา ตื่นเช้าไปส่งที่โรงเรียน เวลาลูกมีปัญหาบางครั้งเขาก็ช่วยดูช่วยกันแก้ปัญหาให้

ส่วนชีวิตหลังแต่งงานก็ดีนะคะ อาจจะเป็นเพราะที่ผ่านมาเราไม่ค่อยได้อยู่ด้วยกัน เพราะอยู่คนละประเทศ ตอนที่เป็นแฟนก็คุยกันแค่ปีนิดๆ ก่อนแต่งงาน ตอนนี้จึงยังเป็นข้าวใหม่ปลามัน มีอีกหลายอย่างที่ต้องเรียนรู้กันและกันเราเลยยังกุ๊กกิ๊กและตื่นเต้นที่จะปรับตัวเข้าหากันอยู่ตลอดค่ะ

ภาพจาก Instagram : @nook_suttida

 

 

เรื่องที่น่าสนใจอื่นๆ

ซันนี่ ผู้ชายทาสแมว เห็นแล้วรักเลย

อิจฉาหนักมาก!! ตามส่องบรรดา แฟนหนุ่มสุดหล่อ

Flavors of Summer ร้อนนี้ น้ำปลาหวาน

แฮ็ปปี้ที่ กระบี่ กินดี อยู่สบายกับ

สุดสัปดาห์

keyboard_arrow_up