คุณหลงตนเองในโลกออนไลน์ (Digital Narcissism) หรือเปล่า

Alternative Textaccount_circle
event

Selfie Getty-476996143

Photo : Getty Images

เมื่อสองสามปีก่อน นิตยสาร Time เรียกเสียงฮือฮาด้วยการตีแผ่ลักษณะนิสัยของคนรุ่นใหม่ที่มีอาการ”หลงใหลในบุคลิกภาพตนเอง” หรือ Narcissistic Personality Disorder ที่มีลักษณะ Everything are all about ME ME ME ! “ฉัน”เป็นจุดศูนย์กลางของทุกอย่าง ไม่สนใจคนรอบข้าง สนใจแต่ตนเองจนเกินพอดี ใครวิจารณ์ไม่ได้เลย โกรธไฟลุก

 

ขณะที่ความเข้มข้นของโลกออนไลน์ยิ่งทวีคูณขึ้นทุกวัน ก็ยิ่งตอกย้ำอาการดังกล่าวให้ปรากฎเด่นชัดขึ้น ปี2015 ที่ผ่านมา เราจึงเห็นคนอวดผัวในหน้าโซเชี่ยลทุกวัน เช่นเดียวกับสาวนุ่งบิกินี่และหนุ่มโชว์ซิกซ์แพค ซึ่งหากทำแค่พองามก็น่ารักดี แต่ถ้าเกินไปชนิดที่ว่า อัพเรื่องราวตัวเองซ้ำๆเดิมๆ เป็นสิบฟีดต่อวัน อันนี้ก็แอบน่ากลัว
เราเลยรวมพฤติกรรมในโลกออนไลน์ที่เข้าข่าย ‘Digital Narcissism’ จนถอนตัวไม่ขึ้นมาให้ดูกัน เช็คดูซิว่าตัวเองเข้าข่ายหรือเปล่า จะได้เพลาๆลงนิดนึงโน๊ะ

 

1. เซลฟี่ถี่พอๆกับหายใจ
ดิฉันเคยไปห้างสรรพสินค้าใจกลางเมือง อารามเร่งรีบ เนื่องจากกลัวไปงานไม่ทัน แต่การเดินทางดิฉันต้องสะดุดลงเนื่องจากต้องคอยระวังตัวไม่ให้ไปโฟโต้บอมบ์ใครเข้า เหตุก็เพราะกว่าสิบชีวิตโดยรอบล้วนแล้วแต่กำลังเซลฟี่ตัวเองค่ะ !! เซลฟี่เสร็จก็เช็ครูป…แล้วก็ลบ แล้วเซลฟี่ต่อวนเป็นลูปๆ (ในแอคติ้งเดิมๆ มุมเดิมๆ) ไม่นับจำนวนไม้เซลฟี่ที่ทิ่มแทงมาจากทุกทิศทางประหนึ่งอยู่ในอุปรากรจีนที่กำลังหยิบหอกมาฟาดฟันกันอย่างเมามันส์ … ค่ะ เอาที่สบายใจค่ะ ไม่ต้องเกรงใจค่ะ มันเป็นพื้นที่สาธารณะค่ะ

 

2. The Fake Thailand
ขั้นตอนการโปรดักชั่นว่าน่ากลัวแล้ว ขั้นตอนการโพสต์รูปน่ากลัวกว่า สารพัดแอพขนมาใช้จนบิดเบือนธรรมชาติ(ตัวจริง) บางคนปรับสีผิวจนสว่างขาวซีดยิ่งกว่า Elle Fanning เผลอๆก็ไม่ได้ดูด้วยซ้ำว่าจมูกได้ถูกกลืนหายไปเพราะแอพแต่งภาพ บางคนแต่งภาพจนขายาวบ้านเบี้ยว…น่ากลัวมาก…ก

 

3. Crazy Check-In
ดิฉันเป็นเฟรนด์กับกระทาชายนายหนึ่ง ผู้ซึ่งวันดีคืนดีเขาก็โพสต์ข้อความว่า ‘อยู่ซับโปโร อากาศหนาวมาก ควันออกปากเบย’ อาจจะลืมปิดฟังก์ชั่นอะไรก็แล้วแต่ (ซึ่งดิฉันก็ไม่ค่อยเข้าใจหรอก) แต่แถบข้างล่างมันขึ้นว่า ‘at Lak-Si’ …เอ่อ…เขาไม่ได้ล้อเล่นด้วยสิคะคุณผู้ชม

 

4. ขอร้อง!…หยุดร้อง!
มีช่วงหนึ่งที่เฟสบุ๊คปรับฟังก์ชั่นใหม่ๆ วีดิโอสามารถเล่นได้เองถ้าเราสไลด์มือถือมาดู (ตอนแรกปิดไม่เป็น -_-“) ดิฉันสะอึกกับสารพัดคลิปคัฟเวอร์เพลง ถ้าเสียงดีจะไม่ว่าเลย แต่บางคนก็ขอร้องเถอะ…คุณคะ…Please!

 

5. มนุษย์ Before-After
การโพสต์รูปตัวเองด้านซ้ายเป็นรูป Before ส่วนด้านขวาเป็นรูป After แล้วขึ้นแคปชั่นว่า ” เรามาได้ไกลมากเลยนะ” ประโยคนั้นหมายความว่าไงรู้ไหม มันแปลว่า “ฉันสวย (หล่อ) ขึ้นนะ ดูฉันสิ” เอาจริงๆนะ ของแบบนี้ ถ้าให้ดีมันต้องให้คนอื่นโพสต์ให้ค่ะ พวกแฟนๆเว็บศัลยกรรม หรืออะไรเทือกนี้ มันดูมีภาษี และไม่หลงตัวเองเกินไป ถ้าภูมิใจมากจริงๆจะให้รางวัลตัวเองสักโพสต์สองโพสต์ก็พอไหว แต่สิบโพสต์ขึ้นไปนี่มันเฝือไปนิส

 

6.เอะอะแก้ผ้า
อันนี้ดิฉันไม่ปฏิเสธว่าแรกๆก็ตื่นเต้นที่จะดู แต่พอเอะอะถอดบ่อยๆ ก็เกิดเบื่อขึ้นมา ถึงกลับสไลด์ขึ้นไปดูของคนใหม่ๆ บางทีก็นั่งคิดนะว่าเพื่อยอดไลค์มันต้องเปลืองตัวเองขนาดนี้เลยเหรอ? บางคนอาจจะแย้งว่าโชว์เพื่อเป็นเเรงบันดาลใจให้กับคนอื่นในการฟิตหุ่นออกกำลังกาย มันก็โอเคนะ ถ้ารีวิวแบบมีที่มาที่ไป สอนเทคนิคการเล่นเวท สอนเทคนิคคาร์ดิโอ้ แต่ถ้ามาแบบ “วันนี้เบื่อจัง” แล้วโพสต์รูปอ้าขาจนไส้ติ่งแล่บแบบไม่มีที่มาที่ไป อันนี้น่ากลัวมาก

 

7.We Are The Champions
เวลาคุณเธอโดนติ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความสวยงาม รสนิยม หรืออะไรก็แล้วแต่ เธอจะโพสต์คอมเม้นท์ตอบโต้อย่างดุเด็ดเผ็ดมันส์ ลามไปถึงรายการเรียลลิตี้ ถ้าคนโปรดตกรอบปุ๊บ คุณเธอจะเข้าไปถล่มๆ คอมเมนท์ด่าทอเสียๆหายๆ เพราะคิดว่าความคิดตัวเองถูกเสมอ…ไม่ต่างจากยุคสมัยก่อนที่แม่ค้าเกลียดนางร้ายในละครแล้วจะเอาเปลือกทุเรียนไปตบ #กลอกตาบนแพ่บ

 

8.สายโม้
จริงหรือไม่จริง…ไม่รู้ แต่ฉันจะโพสต์บลัฟฟ์คนอื่นว่า ฉันใช้ของแบรนด์เนมราคาแพงกว่า ขับรถยุโรปหรูหรากว่า ไปเที่ยวเริ่ดๆกว่า และบางครั้งจะมาในรูปแบบใสซื่อ (เหมือนจะ)ถ่อมตนเบาๆ หลายๆครั้งเราจึงเห็นโพสต์ประมาณว่า “อายุ 28ปี เงินเดือน 7หมื่นแปด น้อยไปไหม” สร้างความงงงวยให้กับผู้อ่านว่า ทำงานได้เงินขนาดนี้ไม่รู้เหรอว่ามันเยอะหรือน้อย!

 

เอาจริงๆ บางครั้งอาการ Digital Narcissism ก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไร จะมองให้ขำก็ทำได้ แต่ถ้าอยากจะลดจำนวนคนที่หมั่นไส้คุณลง ก็แค่ปรับเปลี่ยนนิดหน่อย ลดความถี่ในการโพสต์ลงบ้าง ใส่ใจตัวเองแต่พองาม แล้วจะเป็นความมั่นใจที่น่ารักพอดิบพอดีนะจ๊ะ

 

เรื่อง: วาริชไวรัลย์

สุดสัปดาห์

keyboard_arrow_up